พลิกชีวิตเติมกำลังใจ เคล็ด(ไม่)ลับ…...พิชิตมะเร็ง ได้ด้วยพลังแรงใจ
มะเร็งโรคร้ายที่ยากทำใจ เมื่อได้รู้ว่าต้องเผชิญกับมันสำหรับโลกนี้นอกจากการรักษาที่มีประสิทธิภาพแล้วกำลังใจคืออีกสิ่งสำคัญที่สุด ศาสดาจารย์ดรพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation bim ผู้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อดูแลสุขภาพผู้ป่วยมะเร็งและปัญหาสุขภาพจากโรคต่างๆจึงได้ แนะนำวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นหากมีคนใกล้ชิดป่วยเป็นมะเร็งรวมถึงวิธีการสร้างกำลังใจเมื่อกลายเป็นผู้ป่วยมะเร็งซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวลทั้งผู้ป่วยและญาติ
1 ยอมรับแล้วก้าวต่อไป
ผู้ป่วย:มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ความทุกข์ ท้อใจ กังวล เหนื่อยล้า มารุมเร้า เป็นธรรมดาในที่สุด คุณจำเป็นจะต้องยอมรับให้ได้ยิ่งยอมรับเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งจัดการปัญหาได้เร็วขึ้นเท่านั้น
เพื่อนหรือญาติ:จำเป็นจะต้องเข้มแข็งยอมรับและเข้าใจสถานการณ์ก่อน ซึ่งจะสามารถสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วยยอมรับได้อย่างมีพลังสารพัดคำปลอบโยนจากคนที่เข้าใจใกล้ชิดคือยาบรรเทาขนาดแรกที่ใช้ได้ในยามนี้
2 ลดความกังวลและเติมกำลังใจ
ผู้ป่วย:กล้าพูดคุยกับครอบครัวเพื่อนฝูงคนใกล้ชิด เพื่อระบายความกังวลใจและหาทางออกร่วมกัน หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวแน่นอน
เพื่อนหรือญาติ:ให้ผู้ป่วยได้ระบายความทุกข์หลีกเลี่ยง การพูดถึงความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติทางร่างกายรูปลักษณ์และเรื่องแง่ลบของโรคมะเร็งและเติมความสุข ให้กำลังใจเพื่อผู้ป่วยจะก้าวผ่านความทุกข์ท้อกำลังใจไปได้
3 ศึกษาเพิ่มเติมการรักษา
ผู้ป่วย:ควรรู้จักธรรมชาติของโลกเพื่อที่จะเข้าใจและตั้งรับถึงการเปลี่ยนแปลงในแต่ละอาการซึ่งจะช่วยลดความกังวลวิตกได้ในระดับหนึ่งรวมถึงพัฒนาสภาพจิตใจคิดแต่สิ่งที่จะทำให้ตนเองมีความสุขและมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม
เพื่อนหรือญาติ:ศึกษาข้อมูลในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มเติมเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างดีต่อเนื่อง
4 การออกกำลังกายและมีกิจกรรมไม่ขาด
ผู้ป่วย:ออกกำลังกายไม่หักโหมช่วยให้ร่างกายสดชื่นนอนหลับสนิทกระตุ้นการอยากอาหารการไหลเวียนเลือดและลดอาการท้องผูกขาดไม่ไหวขอให้พยายามเคลื่อนไหวร่างกายเสมอไม่ควรปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง
เพื่อนหรือญาติ:ควรหากิจการเสริมให้ผู้ป่วยทำพร้อมกับมันพูดคุยหรือหากิจกรรมที่ทำร่วมกัน ได้ไม่ลืมใส่ความสนุกจัดหนักลงไปด้วยช่วยเพิ่มอรรถรสได้มาก
5 ลาขาดจากสิ่งบั่นทอนสุขภาพ
ผู้ป่วย:งดหรือเลิกสูบบุหรี่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัดเพราะจะติดเชื้อได้ง่ายรวมถึงการดูแลรักษาและควบคุมโรคอื่นๆควบคู่ไปพร้อมกับการรักษาโรคมะเร็งไม่ให้โรคต่างๆหรือเกิดอาการแทรกซ้อน
เพื่อนและญาติ:คอยผลักดันให้ผู้ป่วยลดละเลิกให้กำลังใจและควบคุมประพฤติจกรรมของผู้ป่วยอย่างถนอมน้ำใจให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการรักษา
6 ปรับพฤติกรรมในการกิน
ผู้ป่วย:เมื่อกินอาหารได้น้อยให้พยายามกินในจำนวนมื้อที่บ่อยขึ้นและงดอาหารหวานเพราะทำให้มะเร็งขยายตัวและงดอาหารเค็มเพราะมีผลต่อการทำงานของตับไตหลีกเลี่ยงการทานอาหารหมักดองอาหารทอดผัดหรือมีกลิ่นรุนแรงเพราะมักกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนและควรงดอาหารที่กระตุ้นเซลล์มะเร็งได้เช่นน้ำตาลหรือเนื้อแดง
เพื่อนหรือญาติ: ปรับเปลี่ยนสถานที่กินของผู้ป่วยลดการจำเจเปลี่ยนไปนั่งกินข้าวริมระเบียงหรือส่วนอื่นของบ้านที่บรรยากาศดีอากาศถ่ายเทมีแสงแดดหรือต้นไม้และดอกไม้
7 ตั้ง เป้าหมายตบรางวัลให้กับชีวิต
ทั้งผู้ป่วยและคนใกล้ชิดต้องมีหัวใจเดียวกัน ว่าการมีชีวิตอยู่นั้นมีความหมายมากทั้งต่อตัวเราคนรอบข้าง หรือมีสิ่งที่ชอบกิจกรรมที่อยากทำสถานที่ที่อยากไปยังไม่ได้ไปหรืออะไรที่รักตั้งธงเป็นกำลังใจเลยว่าจะตายไม่ได้ จะหายดีแล้วจะได้ทำจะได้ลองจะได้ไปคว้ารางวัลที่รอคอย
จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติปี 2560 พบว่าคนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมาโดยแต่ละปีผู้ป่วยใหม่กว่า 130000 รายและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60,000 รายแนวโน้มที่จำนวนจะเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปีโดยศาสดาจารย์ดรพิเชษฐ์วิริยะจิตราหัวหน้าคณะนักวิจัย operation bim จึงได้กล่าวถึงวิธีการปฏิบัติตนเบื้องต้นเมื่อมีคนใกล้ชิดป่วยรวมไปถึงวิธีสร้างกำลังใจ 8 ข้อง่ายๆได้แก่
1 ยอมรับแล้วก้าวต่อไปเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วผู้ป่วยต้องยอมรับให้เร็วที่สุดเพื่อจัดการปัญหาได้ไวซึ่งเพื่อนและญาติพี่น้องต้องเข้มแข็งยอมรับและเข้าใจสถานการณ์เพื่อให้ผู้ป่วยมีพระลังคำปลอบโยนต่างๆจะเป็นยาบรรเทาขนานแรกที่ใช้ได้
2 ลดความกังวลเติมกำลังใจผู้ป่วยต้องกล้าพูดกับครอบครัวเพื่อระบายความกังวลใจเพราะการหาทางออกร่วมกันดีกว่าหัวเดียวแน่นอนขณะที่ญาติควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายหรือแง่ลบของโรคมะเร็ง
3 เข้าถึงรายละเอียดในการจัดการหลังจากพบความเสี่ยงแล้วญาติต้องร่วมคิดตัดสินใจตลอดจนการปฏิบัติตนและอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันลดอาการติดเชื้อต่างๆซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการตรวจวินิจฉัยและรักษามะเร็ง
4 ศึกษาเพิ่มเติมเสริมการรักษาควรรู้จักธรรมชาติของโลกเพื่อตั้งรับการเปลี่ยนแปลงในแต่ละอาการซึ่งจะช่วยลดความกังวลได้ระดับหนึ่งรวมถึงพัฒนาสภาพจิตใจคิดแต่เรื่องมีความสุข
5 ออกกำลังกายและมีกิจกรรมไม่ขาดโดยผู้ป่วยควรออกกำลังกายไม่หักโหมเกินไปให้ร่างกายสดชื่นหลับสนิทกระตุ้นการอยากอาหารและการไหลเวียนของโลหิตไม่นอนติดเตียงซึ่งญาติก็ควรช่วยดูแลพาไปทำกิจการอย่างเดินในสวนหยิบจับงานบ้านง่ายๆงานศิลปะต่างๆเพิ่มความสนุกให้กับชีวิต
6 งดหรือ เลิกสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัดป้องกันการเกิดเชื้อโรคโดยการช่วยเหลือจากของญาติคอยผลักดันที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาได้
7 ปรับพฤติกรรมการกิน เพิ่มความสดชื่นเมื่อกินอาหารได้น้อยต้องพยายามกินในจำนวนมื้อที่บ่อยขึ้นและงดของหวานเพราะทำให้มะเร็งขยายตัวเร็วและงดเค็มเพราะมีผลต่อการทำงานของไตหลีกเลี่ยงอาหารหมักดองทอดผัดหรือมีกลิ่นรุนแรงเพราะมักกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนทั้งนี้การเปลี่ยนสถานที่กินข้าวไปยังส่วนต่างๆของบ้านก็ลดความจำเจลงได้
8 ตั้งเป้าหมายตารางให้ชีวิต ทั้งผู้ป่วยและคนใกล้ชิดเองต้องมีหัวใจเดียวกันว่าการมีชีวิตอยู่นั้นต้องมีความหมายต่อตัวเราคนรอบข้างยังมีสิ่งที่เราชอบกิจกรรมที่เราอยากทำสถานที่ยังไม่ได้ไปตั้งธงเป็นกำลังใจเลยว่าเรา จะตายไม่ได้เราจะหายดีแล้วเราจะได้ทำจะได้ลองจะได้ไปคว้าเอารางวัลที่เรารอคอย
ภูมิสมดุล เพื่อสุขภาพ Balancing lmmunity
คณะนักวิจัย APCO มีประสบการณ์เรื่องการวิจัยรวมหลายทศวรรษ และมีความเข้าใจว่า สารที่อยู่ในพืชอาหารของมนุษย์บริโภคมาหลายชั่วอายุคนมีผลต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาวที่ควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หากสามารถพิสูจน์ว่าสารใดในพืชใดมีผลต่อการทำงานของเม็ดเลือดขาวอย่างไร จะทำให้มีความสามารถในการผสมสารเหล่านี้ได้หลายสูตรและใช้ ปรับภูมิ (คุ้มกัน) ที่ไม่สมดุล ของร่างกายที่มีอาการผิดปกติหลายอาการให้กลับสู่ สภาพภูมิ(คุ้มกัน)สมดุล ที่ทำให้ร่างกายมีสภาพปกติได้ ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น ภูมิแพ้อากาศ จนถึงอาการหนัก เช่น มะเร็ง หรือเอดส์ได้ จึงได้เริ่มดำำเนินการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ Operation BIM ตั้งแต่ ปี 2007
สนใจสั่งซื้อสอบถามผลิตภัณฑ์งานวิจัย APCO
ทีมงานนักวิจัยOperationBIM
ทางไลน์สะดวกที่สุดคลิกที่นี่
Line id : wisutat
