โรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
โรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ หรือที่มักเรียกกันว่าโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s disease) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นใน พบได้ค่อนข้างบ่อยในคนทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่ 20-50 ปี โดยเพศชายและเพศหญิงจะมีอัตราการเกิดโรคนี้ในสัดส่วนที่พอๆ กัน
สาเหตุของโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
อาการของโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
การตรวจวินิจฉัยโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
แนวทางการรักษาโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
สาเหตุของโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ แต่พบว่าอาการของโรคเป็นผลมาจากความผิดปกติของน้ำที่อยู่ภายในหูชั้นใน
อาการของโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
อาการหลัก ได้แก่ อาการเวียนศีรษะ ซึ่งมักจะเป็นอาการเวียนศีรษะรุนแรงและมีความรู้สึกหมุนร่วมด้วย บางครั้งผู้ป่วยอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมกับการสูญเสียสมดุลของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เซหรือล้มได้ง่าย ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการเวียนศีรษะนานเป็นนาทีจนถึงหลายชั่วโมงเลยก็ได้ ในระหว่างที่เกิดอาการ ผู้ป่วยจึงควรอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับศีรษะ เพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะเพิ่มขึ้น
อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมด้วย ได้แก่
การได้ยินลดลง มักพบในช่วงระยะแรกของโรค มักเป็นชั่วคราวโดยที่การได้ยินจะลดลงในช่วงเกิดอาการเวียนศีรษะ เมื่อร่างกายกลับสู่ภาวะปกติการได้ยินจะดีขึ้น แต่หากปล่อยให้โรคดำเนินไปมากขึ้น การได้ยินอาจเสื่อมลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหูตึงหรือหูหนวกได้ในที่สุด
อาการเสียงรบกวนในหูและอาการหูอื้อ อาจเป็นๆ หายๆ ได้ในช่วงระยะแรกของโรค บ่อยครั้งอาจพบว่าเสียงรบกวนในหูจะดังมากขึ้นหรือผู้ป่วยมีอาการหูอื้อมากขึ้นเมื่อจะเกิดอาการเวียนศีรษะ แต่ในระยะหลังๆ ของโรค อาการนี้อาจเป็นอยู่ตลอดไป
การตรวจวินิจฉัยโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
การซักประวัติอาการ เช่น ลักษณะอาการเวียนศีรษะ ความรุนแรงของอาการ ระยะเวลาและความถี่ของอาการ อาการทางหูที่เกิดร่วมด้วย
การซักประวัติสุขภาพ เช่น ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต ประวัติโรคซิฟิลิส โรคคางทูม โรคการอักเสบของตา โรคภูมิคุ้มกัน โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ โรคทางระบบประสาท ประวัติการผ่าตัดหู
การตรวจร่างกาย เช่น
การตรวจหู คอ จมูก และระบบประสาท
การตรวจระบบสมดุลของร่างกาย
การตรวจการทำงานของอวัยวะการทรงตัวในหูชั้นใน (videoelectronystagmography: VNG)
การตรวจดูการเคลื่อนไหวของลูกตาในท่าทางต่างๆ
การตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น
การตรวจการได้ยิน (audiogram)
การตรวจการทำงานของอวัยวะทรงตัวของหูชั้นใน (electronystagmography)
การตรวจการทำงานของเส้นประสาทการได้ยิน (evoke response audiometry)
การตรวจพิเศษทางรังสี (ในรายที่สงสัยว่าอาจมีเนื้องอกของเส้นประสาทการทรงตัวหรือความผิดปกติสมอง) เช่น ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT scan) หรือตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
แนวทางการรักษาโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
การใช้ยารักษาตามอาการตามแพทย์สั่ง
การผ่าตัด สำหรับในรายที่มีอาการรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้จากการใช้ยา แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยการผ่าตัด
ข้อควรปฏิบัติสำหรับโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ
รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่และถูกต้องตามหลักอนามัย
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเค็มจัด ควบคุมปริมาณเกลือไม่ให้มากเกินไป
หลีกเลี่ยงกาแฟ ช็อกโกแลต และอาหารที่มีคาเฟอีน
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้ร่างกายเหนื่อยอ่อนมากๆ เช่น ทำงานติดต่อกันนานเกินไป หรือออกกำลังกายหักโหมมากเกินไป
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ เช่น ความเครียด
ในรายที่เกิดอาการเวียนศีรษะทันทีโดยไม่มีอาการเตือน ควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือเสี่ยงอันตราย เช่น การขับขี่ยานพาหนะ การปีนป่ายที่สูง เป็นต้น
บทความจาก
https://www.bumrungrad.com/th/hearing-and-balance-clinic-bangkok-thailand/conditions/meniere