เคล็ดไม่ลับ วิธีเพิ่มภูมิสมดุลคนวัยทำงาน ประชาชาติธุรกิจ
ชีวิตของคนทำงานปัจจุบันต้องเร่งรีบและแข่งขันกันสูง เพราะอยู่ในวัยกำลังสร้าง
เนื้อสร้างตัวสร้างอนาคต เรียกว่าทำงานหนักกันจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
อาหารการกินที่แต่ละวันได้ทานแต่อาหารสำเร็จรูปคุณภาพต่ำ และเวลาไปออกกำลังกาย
เพื่อฟิตร่างกายและจิตใจ สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะ "ภูมิคุ้มกันไม่
สมดุล" ซึ่งเป็นสาเหตุก่อโรคและปัญหาสุขภาพตามมามากมาย อาทิ โรคออฟฟิศซินโดรม
โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธาน และกรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์จำกัด (มหาชน) นักวิทยาศาสตร์ไทยคนแรกผู้ค้นคิดวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุล
จากสารสกัดธรรมชาติ กล่าวว่า ในร่างกายของคนเรามีเม็ดเลือดขาวอยู่ประมาณ20,000-55,000 ล้านเม็ด ถือเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่มากที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้เรา เพื่อหน้าที่ปรับภูมิคุ้มกันร่างกายให้เกิดความสมดุล ดังนั้น คนวัยทำงานที่มีปัจจัยเสี่ยงจึงไม่ควรมองข้ามความสำคัญของการปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลเพื่อป้องกันร่างกายให้ห่างไกลจากโรคภัยโดยแนะนำวิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันที่ทุกคนก็สามารถทำได้ดังนี้
เพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยการใช้อาหารเป็นยา
ย้อนกลับไปเมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน ฮิปโปเครติส นักปราชญ์ชาวกรีกได้กล่าวไว้ว่า "จงให้
อาหารเป็นยาของท่าน" แต่สำหรับคนวัยทำงานสมัยนี้ที่มักเลือกรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด
เช่น แฮมเบอร์เกอร์ สเต็ก แซนด์วิช พาย พิชซ่า เป็นต้น ด้วยความที่สามารถรับประทาน
ได้ทันที สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาเหมาะชีวิตเร่งด่วนของคนทำงาน การรับประ
ทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำย่อมไม่ใช่เรื่องดีเพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคนานาชนิด
การดูแลสุขภาพด้วยแนวคิด"ภูมิสมดุล"(BIM : Balancing Immunity)
จากสารสกัดพืช 5 ชนิดนับเป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพเพราะพิสูจน์ได้ว่า การใช้อา
หารเป็นยาสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้เกิดความสมดุลได้ อันเป็นผลจากความ
ทุ่มเทศึกษาวิจัยพืชสกุลมังคุดและอื่น ๆ ยาวนานเกือบ 40 ปี จนค้นพบสารสกัด GM-1
จากมังคุดที่มีประสิทธิภาพในการต้านอาการอักเสบและระงับปวดได้ดีว่าแอสไพรินถึง 3
เท่า และยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อมะเร็งในหลอดทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ สารสกัดธัญพืชและผลไม้ 5 ชนิด คือ มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง บัวบก และ
ฝรั่ง ยังมีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง โดยสารสกัดธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิต
เม็ดเลือดขาวชนิด Th1 เพิ่มขึ้น ทำหน้าที่ในการกำจัดเซลล์มะเร็ง เชื้อรา แบคทีเรีย
ไวรัส รวมถึงเม็ดเลือดขาวชนิด Th17 ที่ทำหน้าที่ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้โดย
ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ตามมา และยังช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่สมดุล
เพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยการพักผ่อนเพียงพอ
การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแกร่งโดยปกติคนเรา
ต้องใช้เวลาประมาณ1 ใน 3 ของแต่ละวันกับการนอนหลับจึงจะถือว่าพักผ่อนเพียงพอ
ช่วยให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง อวัยวะที่สึกหรอ และยังปรับสมดุลฮอร์
โมนของร่างกายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ระหว่างที่เรานอนหลับร่างกายยังจะมีหลั่งสาร
เมลาโทนิน (Melatonin) ออกมา ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญหลายอย่างเช่น ช่วย
ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดความดันโลหิต และยังมีหน้าที่ควบคุมการนอนหลับให้เป็น
ไปอย่างปกติอีกด้วย ดังนั้น หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำ
งานของร่างกายลดต่ำลง
ที่สำคัญที่สุด เราควรจัดเวลาการนอนให้เหมาะสมและเป็นเวลา โดยคนเราควรนอน
หลับประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จึงควรเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม สำหรับคนทำงานที่นอน
หลับไม่เพียงพอก็ควรหาเวลางีบหลับสั้นๆ 10-20 นาที ระหว่างเวลา 13.00-16.00 น.
จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นและรู้สึกตื่นตัว ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นและบางประเทศในโลกตะวัน
ตกมักจะสนับสนุนให้พนักงานในองค์กรงีบหลับหลังอาหารกลางวันได้เป็นเวลาไม่เกิน
30นาทีในห้องประชุมที่มีไฟมืด โดยให้นั่งหลับซบกับหมอนโค้งรอบคอหรือหมอนที่มี
รูปร่างคล้ายห่วงยางเล่นน้ำ ผลปรากฏว่าพนักงานรู้สึกสดชื่นพร้อมเริ่มทำงานในช่วงบ่าย
ด้วยความกระตือรือร้นมากขึ้น
ระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเป็นระบบที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิต ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน ดูแลตัวเอง เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค ไวรัส หนอนพยาธิ ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์มีอยู่ทั่วร่างกาย
เปรียบเหมือนกองทัพทหารที่ป้องกันประเทศ ประกอบด้วย ต่อมน้ำเหลือง (เป็นที่อยู่ของเซลล์เม็ดเลือดขาว) คือ หน่วยทหาร และท่อน้ำเหลือง ที่ภายในจะเป็น น้ำเหลือง และเซลล์เม็ดเลือดขาว
เชื่อมต่อระหว่างต่อมน้ำเหลืองด้วยกันเอง และเชื่อมต่อเข้ากับเส้นเลือด คือ เส้นทางเดินทัพของทหาร ม้าม ไขกระดูก ต่อมทอนซิล Payer's patch ที่อยู่ตามเยื่อบุทางเดินอาหาร
เป็นที่ตั้งฐานทัพของทหาร สิ่งแปลกปลอมต่างๆ รวมทั้งจุลชีพก่อโรคจะผ่านเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองจากตำแหน่งที่เข้าสู่ร่างกาย เข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองเฉพาะที่ และผ่านทางเส้นเลือดและท่อน้ำเหลืองกระจายไปทั่วร่างกาย
เซลล์ที่ทำหน้าที่ในระบบภูมิคุ้มกัน สร้างมาจาก stem cells ที่อยู่ในไขกระดูก แบ่งเป็น
1) เซลล์ที่ทำหน้าที่กินสิ่งแปลกปลอม เช่น macrophage, monocyte, neutrophil
2) เซลล์ที่มี granule จำนวนมาก ได้แก่ eosinophil, basophil และ
3) เซลล์เม็ดเลือดขาวขนาดเล็กที่เรียกว่า เซลล์ลิมโฟไซท์ (lymphocyte) ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ B cells และ T cells
B cells ทำหน้าที่ผลิตภูมิคุ้มกันชนิดสารน้ำที่เรียกว่า แอนติบอดี โดยที่ B cell จะถูกกระตุ้นด้วยแอนติเจน แล้วจึงเปลี่ยนเป็น plasma cells เพื่อสร้างแอนติบอดีจำเพาะต่อแอนติเจนนั้น
T cells ทำหน้าที่ด้านการตอบสนองทางด้านเซลล์ เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือจุลชีพแบ่งเป็น
เซลล์ CD4 หรือ helper T (Th) cells เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีแอนติเจนชนิด CD4 บนผนังเซลล์ ทำหน้าที่ส่งเสริมเรียกเซลล์เม็ดเลือดขาวอื่น เช่น B cell ในการสร้างแอนติบอดี
จำเพาะ และ T cells เพื่อการเปลี่ยนเป็น cytotoxic T cells (CTL) ดังนั้น CD4+ T cells จึงมีความสำคัญมาก เพราะมีส่วนร่วมในการทำให้มีภูมิคุ้มกัน ทั้งแบบเซลล์และ
สารน้ำ
เซลล์ CD8 หรือ killer cells หรือ suppressor cells เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีแอนติเจนชนิด CD8 บนผนังเซลล์ ทำหน้าที่ทำลายเซลล์ที่ผิดปกติหรือที่ติดเชื้อจุลชีพ
เซลล์เม็ดเลือดขาวพวกนี้จะรู้ได้ว่าเซลล์ชนิดใดเป็นสิ่งแปลกปลอม จากที่เซลล์ชนิดนั้นไม่มีโมเลกุลที่ผิวเซลล์ HLA class I ชนิดเดียวกับเซลล์เม็ดเลือดขาวนั้น ส่วนสิ่งแปลกปลอมที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
เรียกว่า แอนติเจน (antigen)และตำแหน่งบนแอนติเจนที่จำเพาะในการกระตุ้นเรียกว่า epitopeแบ่งเป็น B-cell epitope กระตุ้น B-cell เพื่อสร้างแอนติบอดีจำเพาะ และ
T-cell epitope กระตุ้น T-cell
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพขายดี ราคาถูก ส่งฟรีถึงบ้าน ทั่วประเทศ
ผลิตภัณฑ์ BIM 100 เป็นอาหารเสริมที่ทำให้สุขภาพ ร่างกายแข็งแรงจากการมีภูมิคุ้มกันที่สมดุล ร่างกายสามารถป้องกัน และ ต่อสู้ อาการผิดปกติมากมายได้ ทีมงานวิจัยเชื่อว่าการค้นพบนี้เป็นการเผยถึงแนวทางใหม่ในการดูแลสุขภาพครบ วงจร อย่างถาวรที่จะทำให้ร่างกายต่อสู้โรคภัยทั้งหลายมากมายได้
ศูนย์บริการตรงส่งถึงคุณ
สมาชิกเอเชียนไลฟ์
bimhcc ศูนย์บิม
http://www.bim100chonburi.com/
วิสุทธิ์
0942364639